เมนู

9. สัมปยุตเตนสัมปยุตตปทนิทเทส


[315] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
สังขารขันธ์
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้
ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง.
[316] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยวิญญาณขันธ์ มนายตนะ
จักขุวิญญาณธาตุ ฯลฯ มโนธาตุ มโนวิญญาณธาตุ
ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 และประ-
กอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[317] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยสมุทยสัจ มัคคสัจ ธรรม
เหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3
อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บาง
อย่าง.
[318] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยมนินทรีย์ ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 และ
ประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[319] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยสุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์
โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรม
เหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และ
ประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.

[320] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยอุเปกขินทรีย์ ธรรมเหล่า
ใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3
อายตนะ 1 ธาตุ 6 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[321] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยสัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์
สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อนัญญตัญญัสสามีตินทรีย์
อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา สังขารเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย

ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง.
[322] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย วิญญาณเพราะสังขาร
เป็นปัจจัย
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบ
ได้ด้วยขันธ์ 3 ประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[323] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย ผัสสะ เพราะสฬายตนะ
เป็นปัจจัย
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 1 ธาตุ 1 บวงอย่าง.
[324] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย เวทนา เพราะผัสสะเป็น
ปัจจัย
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบ
ได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง.
[325] ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วย ตัณหา เพราะเวทนาเป็น
ปัจจัย อุปาทานเพราะตัณหาเป็นปัจจัย กัมมภพ
ธรรมเหล่าใดประกอบ

ได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1
ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[326] ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วย โสกะ ทุกขะ โทมนัสสะ
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บาง
อย่าง.
[327] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อุปายาส สติปัฏฐาน
สัมมัปปธาน
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[328] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อิทธิบาท ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 2 และ
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[329] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย ฌาน ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 2 อายตนะ
1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[330] กรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อัปปมัญญา อินทรีย์ 5
พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วย
ธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1
และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[331] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย ผัสสะ เจตนา มนสิการ
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วย

ขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1
ธาตุ 1 บางอย่าง.
[332] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย เวทนา สัญญา ธรรม
เหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3
อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[333] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย จิต ธรรมเหล่าใดประกอบ
ได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 และประกอบได้
ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[334] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อธิโมกข์ ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ
1 ธาตุ 2 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[335] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สุขเวทนาสัมปยุตตธรรม
ทุกขเวทนาสัมปยุตตธรรม อทุกขมสุขเวทนาสัมปยุตตธรรม
ธรรม
เหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1
และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[336] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สวิตักกสวิจารธรรม
อวิตักกวิจารมัตตธรรม ปีติสหคตธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย
ธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง.
[337] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สุขสหคตธรรม อุเปกขา-
สหคตธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.

[338] ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยเหตุธรรม เหตุสเหตุกธรรม
เหตุเหตุสัมปยุตตธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรม
เหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[339] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สเหตุกนเหตุธรรม เหตุ-
สัมปยุตตนเหตุธรรม นเหตุสเหตุกธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้
ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง. .
[340] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อาสวธรรม อาสวสาสว-
ธรรม อาสวอาสวสัมปยุตตธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรม
เหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และ
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[341] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อาสวสัมปยุตตโนอาสว-
ธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบ
ได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[382] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สัญโญชนธรรม คันถ-
ธรรม โอฆธรรม โยคธรรม นีวรณธรรม ปรามาสธรรม ปรามาสปรา-
มัฏฐธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[343] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย ปรามาสสัมปยุตตธรรม
ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้
ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง,

[344] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย จิตตธรรม ธรรมเหล่าใด
ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 ประ-
กอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[345] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย เจตสิกธรรม จิตตสัม-
ปยุตตธรรม จิตตสังสัฏธรรม จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานธรรม จิตต-
สังสัฏฐสมุฎฐานสหภูธรรม จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานานุปริวัตติธรรม

ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 7.
[386] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย อุปาทานธรรม กิเลส-
ธรรม กิเลสสังกิเลสิกธรรม กิเลสสังกิลิฏฐธรรม กิเลสกิเลสสัมป-
ยุตตธรรม
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น ประ-
กอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1 ประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1
ธาตุ 1 บางอย่าง.
[347] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สังกิลิฏฐโนกิเลสธรรม
กิเลสสัมปยุตตโนกิเลสธรรม สวิตักกธรรม สวิจารธรรม สัมปีติก-
ธรรม ปีติสหคตธรรม
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรม
เหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[388] ธรรมเหล่าใด ประกอบได้ด้วย สุขสหคตธรรม อุเปกขา-
สหคตธรรม
ธรรมเหล่าใดประกอบได้ด้วยธรรมเหล่านั้น ธรรมเหล่านั้น
ประกอบได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้น ประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
จบสัมปยุตตเตนสัมปยุตตปทนิทเทส

อรรถกถาสัมปยุตเตนสัมปยุตตปทนิทเทส


บัดนี้ เพื่อจำแนกบท สัมปยุตเตน สัมปยุตตตะ พระผู้มีพระภาค-
เจ้า จึงทรงเริ่มคำว่า "เวทนากฺขนฺเธน" เป็นอาทิ. ในนิทเทสนั้น บทใด
สัมปยุตด้วยสามารถแห่งขันธ์เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำปุจฉาวิสัชนา
สัมปโยคะบทนั้นนั่นแหละด้วยขันธ์เป็นต้นอีก. บท (สัมปยุตเตน สัมปยุตตะ)
นั้น ย่อมไม่ประกอบด้วยรูปหรือด้วยบททั้งหลายอันเจือด้วยรูป หรือด้วยบท
อัน สงเคราะห์ด้วยรูปขันธ์ทั้งหมด. เพราะว่า สัมปโยคะของธรรมเหล่าอื่นด้วย
รูป. หรือด้วยธรรมอันเจือด้วยรูป ไม่มี, บทอื่นก็ไม่มีนั่นแหละ เพราะความ
ที่ขันธ์เป็นต้น อันควรแก่สัมปโยคะทั้งหมด ท่านถือเอาด้วยธรรมอันสงเคราะห์
กับด้วยอรูปขันธ์ทั้งปวง. บทใดพึงถึงการประกอบกับบทนั้น ฉะนั้นบทเช่นนั้น
ท่านไม่ถือเอาในที่นี้. แต่บทเหล่าใด ย่อมส่องถึงเอกเทศแห่งอรูปอันไม่เจือ
ด้วยรูป บทเหล่านั้น ทรงถือเอาในนิทเทสนี้. พึงทราบอุทานของบทเหล่านั้น
ดังนี้
"อรูปกฺขนฺธา จตฺตาโร มนายตนเมว จ
วิญฺญาณธาตุโย สตฺต เทฺว สจฺจา จุทฺทสินฺทฺริยา.
ปจฺจเย ทฺวาทส ปทา ตโต อุปริ โสฬส
ติเกสุ อฏฐ โคจฺฉเก เตจตฺตาฬิสเนว จ.
มหนฺตรทุเก สตฺตา ปทา ปิฏฺฐิทุเกสุ ฉ
นวมสฺส ปทสฺเสเต นิทฺเทเส สงฺคหํ คตา".

แปลว่า นามขันธ์ 4 มนายตนะ 1 วิญญาณธาตุ 7 สัจจะ 2 (คือ
สมุทยสัจจะมัคคสัจจะ.) อินทรีย์ 14 (คือ มนินทรีย์เป็นต้น ถืงอัญญาตา
วินทรีย์เป็นที่สุด) ปฏิจจสมุปบาท 12 (คือ อวิชชา สังขาร วิญญาณ ผัสสะ